โดนแจ๊คพอต!! เข้าแล้ว ด่า 1 แข้ง โชว์เทพห่วยแตก

 โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด โวยใส่แบบหัวเสียเทพ เจสซี่ ลินการ์ด หลังทำเสียลูกง่ายๆ ไม่น่าจะพลาด ในศึก คาราบาว คัพ ที่ชนะ แมนเชสเตอร์ ชิตี้ 1-0  เว็บข่าวกีฬา

    โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด่า เจสซี่ ลินการ์ด ปีกของทีมอย่างหนัก ระหว่างเกม คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดสอง ที่ทัพ "ปีศาจแดง" บุกไปชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 ถึงสนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อวันพุธที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา

    ในช่วงนาทีที่ 58 ของเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ นัดล่าสุด แมนฯ ยูไนเต็ด พยายามที่จะตั้งเกมบุกเพื่อทำประตูเพิ่ม เพราะถึงแม้พวกเขาจะนำ 1-0 ไปตั้งแต่ครึ่งแรกจาก เนมานย่า มาติช แต่สกอร์รวมยังตามหลังเจ้าถิ่นอยู่ 2-3 อย่างไรก็ตาม ทีมของ โซลชา ก็ต้องหมดโอกาสขึ้นเกมบุกในจังหวะนั้น หลังจากที่ ลินการ์ด เล่นพลาดจนเสียบอลไปง่ายๆ

    ทันทีที่ ลินการ์ด เล่นพลาดแบบนั้น กล้องก็จับภาพไปยัง โซลชา ที่ข้างสนามทันที ซึ่งกุนซือชาวนอร์เวย์ก็โมโหมากๆ จนถึงขนาดที่ตะโกนให้อีกฝ่ายได้ยินด้วยสีหน้าเดือดดาลสุดขีด โดยแฟนบอลหลายคนเชื่อกันว่าเขาขู่ ลินการ์ด ว่าถ้าเกิดเล่นพลาดจนทำทีมเสียบอลอีก 1 ครั้ง ดาวเตะชาวอังกฤษก็จะโดนเปลี่ยนตัวออกทันที

    แต่ โชลชา ก็ตัดสินใจเปลี่ยน อันเดรียส เปเรยร่า ลงไปเล่นแทน ลินการ์ด แต่เขาก็กอด ลินการ์ด เพื่อเป็นการปลอบใจลูกทีมของเขาหลังออกจากสนาม

ติดตามได้ที่ : เว็บข่าวกีฬา

เป็ป ชอบสไตล์การเล่นของ แมนฯยูไนเต็ด

โจเซป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ แมนฯ ซิตี้ ระบุ ชอบสไตล์การเล่น ของแมนฯ ยูไนเต็ด สุดๆ พร้อมเชื่อว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะกลับมาพา "ปีศาจแดง" เป็นทีมชั้นนำเหมือนในอดีตได้อย่างแน่นนอน เว็บข่าวกีฬา

    โจเซป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรมหาเศรษฐีของเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวยกย่อง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่ามีสไตล์การเล่นที่ดี หลังจากที่ "เรือใบสีฟ้า" เพิ่งแพ้คู่อริร่วมเมือง 0-1 คารัง เอติฮัด สเตเดี้ยม ในเกม คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดสอง เมื่อวันพุธที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา

    ประตูเดียวในเกมนี้มาจาก เนมานย่า มาติช กองกลางชาวเซิร์บของทีมเยือนในช่วงครึ่งแรก ถึงกระนั้น เมื่อนับสกอร์รวม 2 นัด แมนฯ ซิตี้ ก็ยังชนะไป 3-2 จนทำให้พวกเขาได้เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ พร้อมกับมีลุ้นได้แชมป์รายการนี้เป็นฤดูกาลที่ 3 ติดต่อกัน

    กวาร์ดิโอล่า เผยว่า "ผมชอบแนวทางที่พวกเขาเล่นมากๆ คุณภาพในแดนหน้าของพวกเขามันยอดเยี่ยม ผมเคยบอกไปตั้งแต่ก่อนหน้าที่เราจะแพ้ในบ้านแล้วว่าผมรู้สึกว่าพวกเขากำลังพยายามทำในสิ่งที่ผู้จัดการทีมของพวกเขาต้องการ และผมก็คิดว่ามันได้ผลในวันนี้"

    "พวกเข้าเล่นได้ไม่คงเล่นคงว่า จะพบเจอกับปัญหาทีมตรงข้ามกลับไปรับลึกในแดนตัวเอง ที่พวกเขาเล่นในบ้าน แต่ผมคิดว่าพอผ่านไปซักพัก พวกเขาก็จะกลับมาเล่นได้ดีเช่นเดิม นั้นแหละเหมือนแมนฯยูไนเต็ด ในอดีต"

ติดตามได้ที่ : เว็บข่าวกีฬา

โซชาตื่นเต้นที่ได้ดวล กับ เป็ป กวาร์ดิโอล่า ตัดเชือกคาราบาว

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดอก พร้อมรับมือ แมนฯชิตี้ แต่ไม่ค่อยพอใจ ที่ครั้งแรกลูกทีมของตนใช้โอกาสเปลือกมากๆ เว็บข่าวกีฬา

    โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่ารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ดวลกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่อริร่วมเมือง ในรอบรองชนะเลิศของศึก คาราบาว คัพ หลังจาก "ปีศาจแดง" ผ่านรอบก่อนรองชนะเลิศได้ด้วยการเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ชนะ โคลเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมจาก ลีก ทู 3-0 เมื่อวันพุธที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา

    ถึงแม้ในฤดูกาลนี้ทีมเยือนจะเคยเสมอ 0-0 ทั้งกับ คริสตัล พาเลซ และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในช่วงเวลาปกติ ก่อนจะไปชนะในช่วงดวลจุดโทษของเกม คาราบาว คัพ มาแล้ว แต่หลายคนก็มองว่า "ปีศาจแดง" น่าจะเอาชนะไปได้แบบไม่ยากเย็น เมื่อเทียบกับการที่พวกเขามีชื่อชั้นเหนือกว่า แถมยังได้เล่นในบ้านของตัวเองด้วย

    ถึงกระนั้น กว่าที่เจ้าถิ่นจะมาได้ประตูขึ้นนำก็ต้องรอจนถึงนาทีที่ 51 จาก มาร์คัส แรชฟอร์ด ก่อนที่หลังจากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด จะมาได้อีก 2 ประตู ประกอบด้วยการทำเข้าประตูตัวเองของ ไรอัน แจ็คสัน ในนาทีที่ 56 และผลงานของ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ในนาทีที่ 61 โดยในรอบรองชนะเลิศทีมของ โซลชา ถูกจับไปเจอกับ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งทั้งคู่ก็เพิ่งดวลกันในลีกเมื่อวันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม ที่ผ่านมา และวันนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปชนะอีกฝ่าย 2-1 ถึงสนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม

    โซลชา เผยว่า "มันจะเป็นวันที่ยอดเยี่ยมของเมืองแมนเชสเตอร์ แน่นอนว่าเราเคารพพวกเขาอย่างมาก อย่างที่ผมพูดไปหลังจบเกมดาร์บี้แมตช์นัดล่าสุดนั่นแหละว่าในมุมมองของผมแล้วนั้น พวกเขาถือเป็นทีมที่ดีที่สุดในอังกฤษ"

    "พวกเขาสามารถเล่นเหนือกว่าพวกคุณได้แบบสบายๆ ดังนั้นเราจึงต้องเล่นตามเกมของตัวเองให้ได้ในสภาพที่ดีที่สุด และพร้อมรับมือกับพวกเขาอีกครั้ง แต่เราก็เคยแสดงให้พวกเขาเห็นแล้วว่าเราสามารถสร้างปัญหาให้พวกเขาได้ ผมคิดว่ามันจะเป็น 2 เกมที่วิเศษสุดๆ"

    โซลชา เสริมว่าไม่พอใจกับการจบสกอร์ของลูกทีมในเกมนี้เท่าไหร่ เพราะที่จริงน่าจะทำประตูได้ตั้งแต่ในครึ่งแรกแล้ว "ผมคิดว่าในครึ่งแรกเราเล่นกันได้ดีมากๆ แต่ยิงทิ้งยิงขว้างกันไปเอง ผมคิดว่าในครึ่งแรกนี่เราเล่นได้ดีกว่าในครึ่งหลังตั้งเยอะ แต่เราก็มาทำประตูได้ในครึ่งหลังน่ะนะ"

    "ในเกมแบบนี้น่ะคุณต้องการประตูแรกเพื่อที่จะสยบทุกๆ ความไม่แน่นอน แล้วจากนั้นมันก็จะมีพื้นที่ว่างให้คุณเล่นเอง และเกมมันก็จะไหลลื่นมากขึ้น ที่จริงแล้วผมคิดว่าเราเล่นได้โอเค พวกเขาเคยไม่เสียประตูในเกมกับ (คริสตัล) พาเลซ และ ท็อตแน่ม (ในรายการ คาราบาว คัพ ของฤดูกาลนี้) มาแล้ว เรารู้ดีว่าเราจะเจาะแนวรับของพวกเขาได้ยาก และในท้ายที่สุดแล้วพอพวกเขาลองบุกเป็นครั้งแรกและมีโอกาสทำประตู เราก็ใช้เกมสวนกลับเร็วเล่นงานพวกเขาได้ ซึ่งนั่นถือเป็นการแก้ปัญหาทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง"

    ในเกมนี้เราสามารถแพกเกมรับแล้วสวนกลับได้ แต่โอกาสไม่เปลือก แล้วมันจะเป็นเกมที่แสนพิเศษได้ โซลชา กล่าว

ติดตามได้ที่ : เว็บข่าวกีฬา

    

โซลชา ตามรอยมูรินโญ่ คล็อปป์ ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ !!

กลายเป็นกุนซือคนที่ 3 ที่สามารถชนะทีมของ กวาร์ดิโอล่า ที่บ้านของอีกฝ่ายได้อย่างน้อย 2 นัด โอเล่ กุนนาร์ โซลชา นายใหญ่ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยเป็นทีมแรกที่ทำลายสถิติ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2018 ของ "เรือใบสีฟ้า" ในเกมบอลถ้วยเป็นประเทศได้เว็บข่าวกีฬา

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรชั้นนำของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กลายเป็นกุนซือคนที่ 3 ที่สามารถนำทีมบุกไปชนะทีมที่ โจเซป กวาร์ดิโอล่า เป็นคนกุมบังเหียน ได้ถึงสนามของอีกฝ่ายอย่างน้อย 2 เกม หากนับรวมทุกรายการ หลังจากล่าสุด "ปีศาจแดง" ออกไปชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 ถึงสนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม ในเกม คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดสอง เมื่อวันพุธที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา ก่อนที่ทีมของ โซลชา จะตกรอบจากการแพ้ด้วยสกอร์รวม 2 นัด 2-3

    กวาร์ดิโอล่า ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในกุนซือที่เก่งที่สุดของวงการฟุตบอลยุคปัจจุบัน จนทำให้ก่อนหน้านี้เขาแพ้ในเกมเหย้าอย่างต่ำ 2 นัดให้กับคู่แข่งเพียงแค่ 2 คน ได้แก่ โชเซ่ มูรินโญ่ กับ เจอร์เก้น คล็อปป์

    นอกจากนี้ ผลงานจากนัดล่าสุดยังทำให้ทีมของ โซลชา เป็นทีมแรกที่เอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ในเกมฟุตบอลถ้วยของประเทศอังกฤษ (หมายถึง เอฟเอ คัพ กับ คาราบาว คัพ) ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2018 เช่นกัน โดยทีมสุดท้ายก่อนหน้าพวกเขาที่คว่ำ แมนฯ ซิตี้ ในเกมฟุตบอลถ้วยได้คือ วีแกน แอธเลติก ซึ่งเกิดขึ้นในรอบ 5 ของรายการ เอฟเอ คัพ ขณะเดียวกัน แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังสามารถบุกไปชนะถึงบ้านของ แมนฯ ซิตี้ ได้อย่างน้อย 2 นัดติดต่อกันเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ที่เคยทำได้ 4 นัดติด ระหว่างปี 1993-2000 ด้วย

ติดตามได้ที่ : เว็บข่าวกีฬา

ชนะแต่เศร้าเจาะประเด็น 5 ข้อ ที่แมนฯยูไนเต็ด ชนะ แต่ไม่ได้ ชิงคาราบาว คัพ

แมนเชสเตอร์ ชิตี้ อาจจะไปไม่สวยเท่าไหร่ แต่ก็เข้ารอบชิงชนะเลิศ ศึกคาราบาว คัพ หลังแพ้ในบ้าน ที่สนามเอติอัล สเตเเดี้ยม ให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-1 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เว็บข่าวกีฬา

ฟอร์มการเล่นในเกมนี้ "เรือใบสีฟ้า" ยังคงเหนือกว่าคู่อริร่วมเมือง แต่ขาดเพียงแค่ความเด็ดขาดเท่านั้น ในขณะที่ "ปีศาจแดง" ใช้โอกาสเพียงครั้งเดียวก็เป็นประตู จากการยิงสุดสวยของ เนมานย่า มาติช ซึ่งแมตช์นี้เขาเล่นได้ยอดเยี่ยม แต่น่าเสียดายที่โดนไล่ออกในครึ่งหลัง

    ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ เกมนี้ต้องบอกว่าพวกเขาไม่มีความเฉียบคมเมื่อสร้างโอกาสได้มากมาย โดยเฉพาะจาก ราฮีม สเตอร์ลิง แต่ดูเหมือน สตาร์ทีมชาติอังกฤษ จะขาดความมั่นใจเหลือเกินในช่วงนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นด้วยบุญเก่าที่บุกไปถล่ม 3-1 ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ทำให้พวกเขาได้ลุ้นความสำเร็จในซีซั่นนี้ 

1. มาติชพิสูจน์ให้เห็นถึงคุ้มค่าของเขา

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา มีแผนที่จะสร้างแผงกองกลางใหม่เมื่อทีมได้ตัว บรูโน่ แฟร์นันด์ส มาร่วมทีม โดยงานนี้นักเตะน่าจะช่วยให้ "ผีแดง" ในเรื่องการสร้างสรรค์โอกาสทำประตูมากยิ่งขึ้น เพราะ ดาวเตะชาวโปรตุกีส มีสถิติการแอสซิสต์และยิงประตูที่ดีเยี่ยม

    ขณะที่ เฟร็ด ก็ค่อยๆ เริ่มแสดงให้เห็นพรสวรรค์ของเขามากขึ้นเรื่อยๆ ในฤดูกาลนี้ และสามารถช่วยทีมได้ดีในช่วงที่ ปอล ป็อกบา กับ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ยังอยู่ในช่วงรักษาอาการบาดเจ็บ และคาดว่าจะกลับมาช่วยต้นสังกัดได้ในเร็วๆ นี้แน่นอน

สำหรับ เนมานย่า มาติช ที่ตอนแรกดูเหมือนว่าเขาจะหมดอนาคตกับทีมไปแล้ว แต่ในช่วงที่ผ่านมา โซลชา ยังคงมองว่าเจ้าตัวยังคงอยู่ในแผนการสร้างทีม เพราะประสบการณ์ของ ดาวเตะเลือดเซิร์บ น่าจะช่วยประคับประครองแดนกลางของทีมได้เป็นอย่างดี

    ในแมตช์นี้ มาติช แสดงให้เห็นแล้วว่า "น้าลูกอม" คิดถูกที่ให้โอกาสเขาลงเล่น เพราะเจ้าตัวสามารถสู้กับ แดนกลางของแมนฯ ซิตี้ ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญยังยิงประตูสุดท้ายให้ทีมขึ้นนำด้วย นอกจากนี้ อดีตดาวเตะเชลซี เล่นได้โดดเด่นไม่ว่าจะมีบอลหรือไม่มีบอลก็ตาม

น่าเสียดายที่ มาติช ต้องมีรอยด่างพร้อยในเกมนี้เมื่อไปทำฟาวล์ อิลคาย กุนโดกัน ในจังหวะที่ "เรือใบสีฟ้า" สวนกลับ ทำให้โดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดง

2. สเตอร์ลิง ขาดความเฉียบคม 

    ราฮีม สเตอร์ลิง ระเบิดฟอร์มสุดยอดนับตั้งแต่ที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เข้ามากุมบังเหียน แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่สามารถงัดฟอร์มเทพออกมาได้ในแมตช์ที่ปะทะกับแมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งไม่รู้ว่าทัพ "ปีศาจแดง" เป็นของแสลงของ สตาร์ทีมชาติอังกฤษ หรือเปล่า ??

    ปีกจอมพลิ้ว "เรือใบสีฟ้า" ไม่สามารถส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายในเกมพบ "เร้ด เดวิลส์" 19 แมตช์ โดยย้อนไปถึงสมัยที่เขายังค้าแข้งกับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ด้วย ในแมตช์นี้ สเตอร์ลิง มีโอกาสที่จะทำลายสถิติที่น่าผิดหวังนี้ เมื่อได้ยิงประตูได้จากการส่งบอลของ เควิน เดอ บรอย์น แต่ดันเป็นลูกล้ำหน้า

    นอกจากนี้ยังมีโอกาสทองฝังเพชรเมื่อเขาโชว์สเต็ปเทพในกรอบเขตโทษ พร้อมกับหลอกล่อ ดาบิด เด เคอา จนล้มกลิ้งไปแล้ว แต่ในจังหวะที่ยิงประตูดันตะบันเต็มแรง บอลเหินข้ามคานไปอย่างน่าเหลือเชื่อ ซึ่งทำเอาแฟนบอลแมนฯ ซิตี้ทั้งเอติฮัด สเตเดี้ยม เฮกันเก้อ

    จริงๆ แล้วจังหวะดังกล่าวหากเป็น สเตอร์ลิง เมื่อไม่กี่ปีก่อน แน่นอนว่าบอลคงเข้าไปซุกก้นตาข่าย แต่ตอนนี้นักเตะอาจจะต้องเรียกความมั่นใจกลับคืนมาซะหน่อย เพราะดูเหมือนมีหลายเกมที่เขาได้โอกาสงามๆ แบบนี้ แต่ยิงทิ้งยิงขว้างไปอย่างน่าเสียดาย

3.  เด เคอา เซฟจนเจ็บมือ

    แม้ว่าก่อนหน้านี้ ดาบิด เด เคอา จะมีฟอร์มลุ่มๆ ดอนๆ ไปบ้าง แต่เขาก็ยังคงสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อทีมจำเป็นต้องการชัยชนะ โดยในแมตช์นี้ นายทวารทีมชาติสเปน ทำให้สาวก "ปีาจแดง" ได้เห็นแล้วว่าเขาโชว์ฟอร์มได้เหนียวหนึบมากแค่ไหน

    แมตช์นี้ นายด่านเลือดกระทิงดุ โชว์ป้องกันอย่างน่าเหลือเชื่อหลายครั้งในครึ่งแรก โดยหากไม่ได้ อดีตผู้รักษาประตู "ตราหมี" แอตเลติโก มาดริด ช่วยเซฟประตู งานนี้บอกเลยว่า "เร้ด เดวิลส์" คงยากที่จะคว้าชัยชนะในแมตช์สำคัญนี้อย่างแน่นอน

    บอกเลยว่า เด เคอา ฟอร์มสุดยอด และทำให้สาวก "เร้ด เดวิลส์" รู้สึกใจชื้นมากๆ เมื่อเห็นเขายืนเฝ้าเสา ขณะเดียวกันทีมก็เกือบเสียประตูในจังหวะที่ ดาบิด ซิลบา มีโอกาสจะๆ หลังจากความผิดพลาดของ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ แต่เดชะบุญที่ไม่เสียประตู

    หากมองในมุมฟอร์มการเล่นของ เด เคอา ต้องยอมรับว่าเหนียวหนึบช่วยทีมเก็บคลีนชีตได้ แต่หากมองในมุมของเกมรับนั่นแสดงให้เห็นว่าทีมสู้แนวรุกของแมนฯ ซิตี้ ไม่ได้เลย และยิ่งมองในมุมของเกมบุก "เรือใบสีฟ้า" ดูเหมือนว่าจะขาดความเฉียบคม

4. เป๊ป มาแผนใหม่

    หลังจากบุกคว่ำ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมแรก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า หันมาเล่นแผนแปลกๆ ในระบบ 3-2-4-1 โดยใช้กองหลัง 3 ตัวได้แก่  ไคล์ วอล์คเกอร์, นิโกลัส โอตาเมนดี้ และชูเอา กานเซโล่ ขณะที่ โรดรี้ เอร์นานเดซ กับ กุนโดกัน ทำหน้าที่เยือนต่ำบริเวณแผงมิดฟิลด์

    ระบบนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าทำเอา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงกับมึนตึ๊บแทบจะจัดกระบวนยุทธตั้งเกมรับไม่ถูก และนั่นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ "เรือใบ" สามารถสร้างโอกาสได้หลายต่อหลายครั้งในช่วงครึ่งแรก แต่ได้ เด เคอา ที่ช่วยเซฟพัลวัน

    แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงใช้แผนเดิมในการตั้งรับสวนกลับ ซึ่งได้ผลดีเยี่ยมในยามที่เจอกับทีมที่เน้นเกมบุก แต่งานนี้การเล่นสไตล์ดังกล่าวใช้ไม่ค่อยได้ผลกับ แมนฯ ซิตี้ อย่างไรก็ตามพวกเขามีทีเด็ดจากการเล่นลูกตั้งเตะ โดย เฟร็ด เปิดเข้าเขตโทษก่อน กุนโดกัน โขกสกัดไม่ดีเลยมาเสาสองเข้าทาง  มาติช ฮาร์ฟวอลเล่ย์ ด้วยซ้ายเบียดเสาเข้าประตู 

    หลังจากเสียประตูเจ้าบ้านใช้วิธีการเล่นเกมไล่กดดันเร็ว และดันขึ้นสูง ทำให้สามารถแย่งบอลกลับคืนมาได้ตลอด โดยเฉพาะในแผงกองกลาง "เรือใบสีฟ้า" เอาชนะมิดฟิลด์ "ผีแดง" และครองเกมได้หมด แต่น่าเสียดายที่ขาดความเฉียบคมทำให้ต้องแพ้ไป

 5. แมนฯซิตี้ เข้าชิง 3 ปีติดต่อกัน

    สำหรับรายการคาราบาว คัพ หลายสโมสรอาจจะมองข้าม แต่สำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มองว่าถ้วยใบนี้มีความสำคัญมากๆ เพราะหากทีมได้แชมป์ แน่นอนว่าจะเป็นเหมือนขวัญกำลังใจในการลุ้นแชมป์ที่เหลืออยู่ ทั้งเอฟเอ คัพ และ ยูฟ่า แ ชมเปี้ยนส์ ลีก ส่วน พรีเมียร์ลีก คงต้องยอมให้ ลิเวอร์พูล ไปแล้ว

    การที่ "เรือใบสีฟ้า" สามารถทะลุเข้าชิงรายการนี้ได้ นั่นหมายความว่าพวกเขาเป็นทีมที่สามที่สามารถเข้าชิง 3 สมัยติดต่อกันในการแข่งขัน ลีก คัพ (ชื่อเดิม) หลังจากที่ "หงส์แดง" เคยทำได้แล้ว (เข้าชิง 4 สมัยติดต่อกันระหว่างปี 1981-1984) และ น็อตติงแฮมป์ ฟอเรสต์ (1978-1980)

    ส่วนในเกมที่สนามเวมบลีย์ นัดดวล แอสตัน วิลล่า หากจะมองว่าง่ายก็ง่าย แต่จะว่ายากก็ยากเช่นกัน เพราะ "สิงห์ผงาด" ก็ต้องการความสำเร็จในรายการนี้เช่นกัน แม้พวกเขาอาจจะดูเป็นรอง แมนฯ ซิตี้ ก็ตาม แต่บอลนัดเดียว อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้

ติดตามได้ที่ : เว็บข่าวกีฬา

โซลชาไม่พอใจ มาติชโดนโล่ออก !

ข่าวบอลวันนี้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด่าแหลก มาติช โดนกรรมการไล่ออกจากสนามง่ายเกินไปในเกมที่เจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึก คาราบาวคัพ รอบตัดเชือก เว็บข่าวกีฬา

    ไม่เชื่อว่าเนมานย่า มาติช กองกลางตัวรับของทีม ไม่ควรโดนไล่ออก ในศึก คาราบาว คัพ หลังบุกไปชนะ แมนเชสเตอร์ ชิตี้ 1-0 แต่กลับตกรอบ เพราะแพ้สกอร์รวม 2-3 

    มาติช กดประตูสุดสวยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 35 ก่อนมาได้รับใบเหลืองนาทีที่ 51 และหลังจากนั้นในนาทีที่ 76 เจ้าตัวมาได้รับใบเหลืองที่สองเป็นใบแดง จากการทำฟาวล์ตัดเกมใส่ อิลคาย กุนโดกัน ซึ่ง โซลชา มองว่า เกมนี้ มาติช ถูกจดชื่อง่ายมากโดยเฉพาะใบเหลืองแรก

    "เขาได้ใบเหลืองตั้งแต่การทำฟาวล์ครั้งแรก และเกือบมาโดนอีกเหลืองในการทำฟาวล์หนที่สอง ซึ่งผมมองว่า จังหวะนั้นไม่ฟาวล์เลยด้วยซ้ำ แน่นอน ใบเหลืองที่สองถือว่าสมควร แต่รวมๆ แล้วเกมนี้เขาควรได้ใบแดงหรือเปล่า? ไม่เลย"

    "เกมนี้พวกเขาก็ฟาวล์ใส่เราตั้งหลายครั้ง กี่ครั้งล่ะ ที่ แดน (แดเนี่ยล) เจมส์ โดนทำฟาวล์? ครึ่งแรก เจสซี่ (ลินการ์ด) ก็โดนเล่นงาน แต่ผมก็ภูมิใจนะ กับการมาที่นี่สองครั้งและชนะทั้งสองครั้ง (รวมถึงเกมลีกที่บุกมาชนะ 2-1 เมื่อช่วงเดือนธันวาคม)" 

    เกมนี้เป็นเกมที่น่าจะพอ สำหรับทีม เขาพยายามจะหยุดทีมเราหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ผ่านมาได้ กลับมาชนะได้ผมภูมิใจ โซลชา เปิดใจหลังเกม 

ติดตามได้ที่ : เว็บข่าวกีฬา

รถบัสน้ามู ยางแตก สิงห์บูลส์บุกเชือดไก่คารัง

รถบัสน้ามู ยางแตก สิงห์บูลส์บุกเชือดไก่คารัง

                ชี้ทีมตนต้องรู้จักเล่นเกมรุกให้ดุดันกว่านี้  โธมัส ทูเคิ่ล ผู้จัดการทีม เชลซี เชื่อว่า  นี่คือเป้าหมายของเรา และถือเป็นภาระหน้าที่สำหรับผมด้วย ทีมตนจำเป็นต้องสร้างโอกาสและเล่นเกมรุกให้ดุดันกว่านี้ พวกเขาสามารถกดเจ้าบ้านได้ตลอดแทบทั้งเกม และสร้างโอกาสได้มากมาย ในเรื่องของสไตล์การเล่น และทัศนคตินักเตะไปอย่างสิ้นเชิง เพราะตอนนี้ "สิงโตน้ำเงินคราม" เป็นทีมที่มีเกมรุก และเกมรับที่มีความลงตัวอย่างมาก ใช้ระบบการเล่น 3-4-3 เหมือนกับที่ อันโตนิโอ คอนเต้ เคยใช้กับ "สิงห์บลูส์" จนประสบความสำเร็จมาแล้ว ที่สำคัญยังเป็นทีมที่มีความยืดหยุ่นในการเล่นสูงด้วย

                โธมัส ทูเคิ่ล ผู้จัดการทีม เชลซี เชื่อว่า ทีมตนจำเป็นต้องสร้างโอกาสและเล่นเกมรุกให้ดุดันกว่านี้ แม้ล่าสุดบุกไปเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1-0 ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดดาร์บี้แมตช์แห่งกรุงลอนดอน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

                เกมนี้ เชลซี ได้ประตูชัยในนาทีที่ 24 จากการสังหารลูกจุดโทษของ จอร์จินโญ่ ซึ่งชัยชนะนัดนี้ทำให้ "สิงห์บลูส์" ขึ้นมารั้งอันดับหก ในตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก โดยมี 36 แต้ม จากการลงแข่ง 22 นัด ตามหลัง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทีมอันดับห้า 2 แต้ม 

               "เราจำเป็นต้องสร้างโอกาสแบบเน้นๆ ให้ได้มากกว่านี้ นี่คือเป้าหมายของเรา และถือเป็นภาระหน้าที่สำหรับผมด้วย เรื่องนี้ผมไม่โทษใครหรอก เรามีความเชื่อมั่นในตัวนักเตะของทีมเราเต็มที่ ดังนั้นเราจะพยายามทำงานอย่างหนักตรงจุดนี้ เพื่อสร้างโอกาสให้ได้มากขึ้น และมีเกมรุกที่ทรงประสิทธิภาพมากขึ้น" กุนซือชาวเยอรมันวัย 47 ปี กล่าว

               เกมนี้ เชลซี สมควรเป็นฝ่ายได้เฮแล้ว  ถึงแม้เป็นชัยชนะที่ได้มาไม่ง่าย แต่ ทูเคิ่ล ยืนยันว่า "ถือเป็นชัยชนะที่คู่ควรสำหรับเรา ช่วงครึ่งแรกเราเล่นได้ดีมากๆ ไม่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้สวนกลับเลย จะแย่หน่อยตรงที่เราไม่มีความเด็ดขาดในกรอบเขตโทษ และไม่สามารถทำประตูเพิ่มเป็น 2-0 หรือมากกว่านั้นได้ ช่วงครึ่งหลังเราเจองานหนักมากขึ้น เพราะบางครั้งเราทำบอลเสียแบบง่ายๆ และสูญเสียความมั่นใจไปบ้าง แต่เราก็ไม่เคยเสียสมาธิ รวมถึงโครงสร้างในเกมรับ"  แม้ว่าผลงานโดยรวมของ เชลซี จะโดดเด่นมากๆ ในเกมเยือน สเปอร์ส แต่สิ่งที่พวกเขาควรจะต้องมีการปรับปรุงนั่นก็คือเรื่องการจบสกอร์ในพื้นที่สุดท้าย เพราะหากดูจากสถิติการสร้างโอกาสแล้ว ต้องบอกว่าน่าเสียดายที่ทีมยิงได้แค่ประตูเดียวเท่านั้น สำหรับตอนนี้ต้องยอมรับว่าเกมรับ และเกมแดนกลางของ เชลซี ในยุค ทูเคิ่ล มีความโดดเด่นและน่าประทับใจมากๆ จะเหลือก็แค่เกมบุกเท่านั้น ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาปรับจูนสักพักทุกอย่างคงจะลงตัวยิ่งกว่านี้

ติดต่อ LINE @UFAX891 👈

ติดตามได้ที่ : เว็บข่าวกีฬา

แบ็กซ้าย สกอตต์แลนด์ รับ ลิเวอร์ ไม่อยู่ในกลุ่มลุ้นแชมป์

 

แบ็กซ้าย สกอตต์แลนด์ รับ ลิเวอร์ ไม่อยู่ในกลุ่มลุ้นแชมป์

            ยอมรับแล้ว แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน พูดถึงทีมของตน หลังจากที่ล่าสุดพ่ายแพ้ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 0-1 
คารัง แอนฟิลด์ เมื่อวันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ในตอนนี้ทีมของตนไม่ได้เข้าข่ายทีมที่มีลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

            หลังจากเคยฟอร์มสะดุดติดต่อกันหลายนัด ลิเวอร์พูล ก็เหมือนจะกลับมาได้แล้วหลังจากชนะมา 2 เกมติดต่อกันก่อนหน้าที่จะถึงเกมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา แต่พวกเขากลับแพ้แบบพลิกความคาดหมายของหลายคน ซ้ำร้าย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังเอาชนะ เบิร์นลี่ย์ ไปได้ในช่วงก่อนหน้านั้นด้วย ทำให้ตอนนี้ "หงส์แดง" ตามหลัง "เรือใบสีฟ้า" ที่เป็นจ่าฝูงไปแล้วถึง7 แต้ม โดยที่ ลิเวอร์พูล ลงเล่นเยอะกว่าอยู่ 1 เกม แถมทั้งคู่ก็มีคิวเจอกันเองในวันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์นี้อีก

            โรเบิร์ตสัน เผยว่า "เกมไหนก็ตามกับ แมนฯ ซิตี้ ก็ถือเป็นเกมใหญ่ทั้งนั้น จากสถานการณ์ในตอนนี้เราไม่ได้เป็นทีมในกลุ่มลุ้นแชมป์ เราตามหลังพวกเขา 7 แต้มโดยที่พวกเขายังลงเล่นน้อยกว่า 1 เกมด้วย ผมมั่นใจว่าพวกเขาก็คงจะพูดแบบเดียวกับผมนี่แหละถ้าเกิดว่าตามทฤษฎีแล้วพวกเขามีโอกาสตามหลังใครก็ตามสัก 10 คะแนน เราต้องกลับไปเป็น ลิเวอร์พูล แบบที่ทุกคนรู้จักให้ได้ เรายังเป็นทีมที่ดีอยู่ มันไม่ใช่ว่าจู่ๆ เรากลายเป็นทีมที่แย่ในชั่วข้ามคืนหรอก"

            แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน กล่าว ไบรท์ตันฯ เล่นได้ดีกว่าทีมของตนมากๆ เขากดดันเราได้ มีเกมเพลสซิ่งเราแล้วสร้างโอกาส ทำได้ดีกว่า เราผิดหวังในทุกๆด้าน คุณต้องให้เครดิตกับเขา เพราะพวกเขาสร้างโอกาสได้

 ติดตามได้ที่ : เว็บข่าวกีฬา

แนวรับใน พรีเมียร์ลีก ที่มีค่าเฉลี่ยการสร้างโอกาสทำประตูต่อ 1 เกม

 

แนวรับใน พรีเมียร์ลีก ที่มีค่าเฉลี่ยการสร้างโอกาสทำประตูต่อ 1 เกม

                ตั้งแต่ต้นปี 2021 มานี้ ลุคชอว์ แบ็กซ้ายของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้โชว์ฟอร์มให้เห็นว่า เป็นแนวรับที่มีโอกาสทำประตูสูงที่สุดของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยอัตราค่าเฉลี่ย 3.40 ครั้งต่อนัด ในการแข่งขันที่ผ่านมา 

                หลายปีก่อน ชอว์ ทำท่าว่าจะหมดอนาคตกับ แมนฯ ยูไนเต็ด แล้ว หลังจากที่ไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งเหมือนตอนอยู่กับ เซาธ์แฮมป์ตัน ได้ แถมยังมักจะโดนอาการบาดเจ็บตามเล่นงานอย่างต่อเนื่องจนทำให้ไม่ได้ลงเล่นมากนัก อย่างเช่นในช่วง 2 ซีซั่นแรกที่ โชเซ่ มูรินโญ่ เป็นกุนซือของ "ปีศาจแดง" ที่เขาได้เป็นตัวจริงในลีกรวมกันเพียง 17 เกม เป็นต้น

                อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เข้ามาเป็นกุนซือของทีมแล้วนั้น ฟูลแบ็กชาวอังกฤษก็ได้รับโอกาสลงเล่นอย่างต่อเนื่องและทำผลงานได้โดดเด่นในระดับหนึ่ง อย่างนัดล่าสุดที่ชนะ "นักบุญ" เขาก็ทำได้ 2 แอสซิสต์ด้วยกัน โดยฤดูกาลนี้เขาได้เป็นตัวจริงในลีกไปแล้วถึง 16 เกม

                สำหรับแนวรับที่มีค่าเฉลี่ยการสร้างโอกาสทำประตูสูงเป็นอันดับ 2 ของ พรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ที่เข้าสู่ปี 2021 ได้แก่ คีแรน เทียร์นี่ย์ ฟูลแบ็ก อาร์เซน่อล แต่ผลงานของเขาอยู่ที่ 2.50 ครั้งต่อนัด น้อยกว่า ชอว์ เยอะพอตัว ส่วนอันดับ 3 อย่าง ชูเอา กานเซโล่ ดาวเตะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ทำได้เพียง 1.90 ครั้งต่อเกมเท่านั้น โดยที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสั แบ็กซ้าย ลิเวอร์พูล กับ รีซ เจมส์ แนวรับ เชลซี ตามมาเป็นที่ 4 กับ 5 ตามลำดับ

                ทั้งนี้ ผลงานในปี 2021 ของ ชอว์ ถือว่าเหนือกว่าฟอร์มที่ผ่านมา ตั้งแต่ มีอาการบาดเจ็บ ขาหนัก ในปี 2015 แมตซ์ พบ พีเอสวี  ในศึก UCL โดยส่วนหนึ่งในปี 2021 ซอว์ มีจังหวะโอเพ่นเพลย์สูงมาก ระดับ 5.55 ครั้งต่อเกม ขณะที่ปีที่ผ่านมา มีอาการบาดเจ็บ และลงเป็นตัวสำรองซะส่วนใหญ่

ติดตามได้ที่ : เว็บข่าวกีฬา

ไม่ใช่งานที่ยาก

ไม่ใช่งานที่ยาก

                ผมได้แชมป์มาแล้ว ตั้ง 3 หน  โซเซ่ มูรินโญ่  นายใหญ่ สเปอร์ส กล่าวว่า การคุมเซลซีมันไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลย กดดันทูเคิ่ล ก่อนทั้ง 2 ทีมจะต้องมาพบกันในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในคืนที่ 4 กุมภาพันธ์นี้

เชลซี เพิ่งแต่งตั้ง โธมัส ทูเคิ่ล เข้ามาเป็นกุนซือคนใหม่ของพวกเขา ซึ่งหลายคนมองว่านายใหญ่ชาวเยอรมันต้องเจองานหนักพอตัวในการทำให้ทีมกลับมามีผลงานที่ยอดเยี่ยมและประสบความสำเร็จเหมือนในอดีต
 

มูรินโญ่ เผยว่า "ผมไม่คิดว่าการคุม เชลซี เป็นงานที่ยากเย็นอะไรเลยนะ เพราะผมเคยได้แชมป์ลีกกับที่นั่น 3 ครั้ง อันเชลอตติ ก็เคยเป็นแชมป์กับที่นั่น อันโตนิโอ คอนเต้ ก็เคยทำได้เหมือนกัน มีใครอีกล่ะ ? มันไม่ใช่งานที่ยากระดับเข็นตรกขึ้นภูเขาเลยเพราะเราได้แชมป์กันตั้งหลายหน"

               

                 ผมเชื่อว่า เซลซี มีขุมกำลังนักเตะที่ยอดเยี่ยมอยู่เสมอ โค้ชเก่งๆ ยินดีจะทำงานร่วมกับสโมสรและนักเตะที่มีความหวังลุ้นแชมป์ลีกอยู่แล้ว

ติดตามได้ที่ : เว็บข่าวกีฬา

เร่งยกระดับฟอร์ม แบ่งเบา ซาลาห์

 เร่งยกระดับฟอร์ม แบ่งเบา ซาลาห์

มุมมองอดีต หัวหอกร่างโย่ง ปีเตอร์ เคร้าข์ เผย โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ จำเป็นต้องเร่งรีบเคล็นฟอร์มเก่งและพัฒนาการจบสกอร์ขึ้นมาให้ได้ โดยบอก ตอนนี้ หงส์แดง พึ่งพาโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในการทำเป็นตูมากเกินไป หลังจากล่าสุด หงส์แดง พ่าย ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 0-1 คารัง แอนฟิลด์ ในเกม พรีเมียร์ลีก ในคืนที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

นัดดังกล่าว เจอร์เก้น คล็อปป์ ตัดสินใจส่ง ซาลาห์, ฟีร์มีโน่ และ เซอร์ดาน ชากิรี่ เป็น 3 ตัวจริงในแนวรุกหลังจากที่ ซาดิโอ มาเน่ ยังไม่ฟิตพอที่จะช่วยทีม ซึ่งสุดท้ายแล้วแดนหน้าของ ลิเวอร์พูล ก็ไม่สามารถสร้างความอันตรายได้มากนักจนทำให้พวกเขาแพ้ในลีกเป็นนัดที่ 4

เคร้าช์ กล่าวระหว่างทำหน้าที่กูรูของ บีที สปอร์ต สื่อกีฬาชื่อดังของอังกฤษว่า "พวกเขาพึ่งพา ซาลาห์ มากเกินไป ฟีร์มีโน่ ต้องยกระดับขึ้นมาให้ได้ ก่อนหน้านี้มันดูเหมือนว่าเขาจะคืนฟอร์มเก่งแล้วก็จริง แต่คนที่ทำประตูคือ ซาลาห์ จนถึงตอนนี้เขา (ซาลาห์) ยังทำประตูได้ตั้ง 20 ลูกทั้งที่เขาไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด"

            เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม แต่เมื่อเพื่อนร่วม ทีม มีอาการบาดเจ็บ ร่างกายไม่สมบูรณ์ อย่าง มาเน่ กับ โชต้า มันก็ส่งผลอย่างมาก มันน่าเสียดายที่ โชต้า เกิดอาการบาดเจ็บ เพราะเขามีส่วนช่วยกระตุ้นพวกเขาโชว์ฟอร์มเก่ง ในตอนที่ ซาลาห์ ฟอร์มไม่เข้าฟัก หรือตอนที่ยิงไม่ได้  มันทำให้ผมคิดว่า การที่ขาด 2 ผู้เล่นอย่าง มาเน่ และโชต้า ไปทำให้ การเล่นในแดนหลังของฝั่งตรงข้ามไม่ไหลเลื่อน ภายในทีมของพวกเขา ไม่มีตัวผู้เล่นที่ทำประตูมากเท่าที่ควรในตอนนี้

ติดตามได้ที่ : เว็บข่าวกีฬา

รับสภาพ ลิเวอร์ สภาพจิตใจไม่ดี

 รับสภาพ ลิเวอร์ สภาพจิตใจไม่ดี

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ชี้แข้งลิเวอร์พูล เชื่อว่า สภาพร่างกาย จิตใจแย่ทำ พ่ายไบรท์ตัน หลังเปิดบ้านพ่าย ไบตันฯ 0-1 คารัง แอนฟิลด์ นศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ผ่านมา

เกมนี้ ไบรท์ตัน ได้ประตูชัยจาก สตีเว่น อัลซาเต้ นาทีที่ 56 ซึ่งการปราชัยครั้งนี้ของ ลิเวอร์พูล ทำให้พวกเขาตกมาอยู่ที่สี่ในตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก โดยมี 40 แต้มเท่าเดิม หลังลงแข่งไปแล้ว 22 นัด ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมจ่าฝูง ที่ลงเตะน้อยกว่า 1 นัด 7 แต้ม   

           "วันนี้เราเจอกับทีมที่ยอดเยี่ยม ซึ่งผมก็บอกตั้งแต่ก่อนเกมแล้วว่า พวกเขาเป็นทีมที่ดี สำหรับเราแล้วมันดูเหมือนกับว่า นี่คือสัปดาห์ที่ยากลำบาก เพราะคืนนี้เราไม่มีความสดชื่นกันเลย ถ้าสภาพจิตใจคุณไม่สดชื่น สภาพร่างกายก็จะไม่สดชื่นตาม ดังนั้นขาก็เลยช่วยแก้ปัญหาให้คุณไม่ได้"

           "แน่นอน พวกเขาสมควรชนะ แต่เราเองก็อยากจะเล่นกันให้ดีกว่านี้ และแน่นอนกว่านี้ เพราะวันนี้เราทำบอลเสียง่ายๆ ในจุดที่เราเคยทำได้ดีเยอะมาก ผมรู้ว่าเด็กๆ สามารถผ่านบอลจากจุดเอสู่จุดบี ได้ แต่ดูเหมือนว่าวันนี้จุดบี เราเข้าไม่ค่อยถึงในหลายๆ ครั้ง" ยอดกุนซือชาวเยอรมันวัย 53 ปี เปิดใจหลังเกม โดยแมตช์ต่อไปคือการเปิดรัง แอนฟิลด์ เจอกับ แมนฯ ซิตี้ วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์นี้

            แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน กล่าว ไบรท์ตันฯ เล่นได้ดีกว่าทีมของตนมากๆ เขากดดันเราได้ มีเกมเพลสซิ่งเราแล้วสร้างโอกาส ทำได้ดีกว่า เราผิดหวังในทุกๆด้าน คุณต้องให้เครดิตกับเขา เพราะพวกเขาสร้างโอกาสได้  เราตามหลัง อันดับ 1 ถึงเจ็ดแต้ม แถมยังมีอีก 1 นัดที่ยังไงไม่ได้เล่น เราจึงต้องรีบกลับไปเป็น ลิเวอร์พลู ที่ ทุก ๆ คนรู้จัก

ติดตามได้ที่ : เว็บข่าวกีฬา